ครบหนึ่งปีพอดีที่ไม่ได้เขียนเรื่องราวอะไรลงในบล็อก อาจเป็นเพราะพื้นเพเดิมผมก็ไม่ใช่คนที่ชอบสื่อสารอะไรออกไปบ่อยๆ เวลาเผลอไปแป๊บเดียวก็ครบปีพอดี
ในทุกๆปีที่ผ่านไปก็มีเรื่องราวมากมายหลายอย่างให้รับรู้ ไม่ว่าแง่มุมไหนก็ตามเพียงขอให้เราเข้าใจ และ ทำใจยอมรับมันให้ได้ดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรที่มันโหดร้ายเกินไปจากความน่าจะเป็น
ช่วงปลายปี 2565 นี้มีญาติผู้ใหญ่ของเพื่อนได้เสียชีวิตกันไปหลายคนตามอายุขัย ในวูบหนึ่งของความคิดไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจให้คิดถึงเปลวเทียนที่ดับแสงลง และชีวิตคนเราจากถือกำเนิดจนจากลาก็จะเกี่ยวข้องกับ "ไฟสามกอง" อันเป็นที่มาของความคิดคำนึง
ไฟกองแรก น่าจะเป็นไฟที่เป็นสัญญาณของการเกิดใหม่ มันทำให้ผมนึกถึงคนในสมัยก่อนที่นิยมให้หมอตำแยช่วยดูแลในการคลอดลูก และแน่นอนว่าองค์ประกอบของการคลอดก็จะต้องมีการต้มน้ำเพื่อทำความสะอาดเครื่องใช้ไม้สอบต่างๆ ตลอดจนเตรียมการสำหรับทารกน้อยที่จะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่
ไฟกองที่สอง คิดไปแล้วอาจจะไม่เป็นเพียงไฟแค่กองเดียว เพราะกองที่สองนี้จะลุกโชนหล่อเลี้ยงชีวิตของเราจากเล็กจนเติบใหญ่ ผ่านวัยผ่านวันทั้งทุกข์ สุข รุ่งโรจน์โชติช่วงหรืออับเฉาห่อเหี่ยว และไม่ว่าไฟกองนี้จะคุโชนหรือโรยแรงอย่างไรไฟกองนี้ก็เป็นไฟที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเราไปจนสู่ปลายทางที่มีความสั้นยาวที่แตกต่างกันออกไป
ส่วนไฟกองที่สามนั้น คือไฟที่จะนำเราสู่ภพภูมิใหม่ ใช่ครับ มันคือกองไฟที่ใช้ฌาปนกิจรูปสังขารของเรายามที่จากโลกนี้ไป ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่ด้วยความสุขหรือความทุกข์ สุดท้ายแล้วสิ่งต่างๆทั้งมวลของเราก็จะสลายหายไปกับไฟกองที่สามนี้เอง
สำหรับชีวิตคนเราเมื่อดำเนินชีวิตไปด้วยไฟกองที่สองนั้น คนที่จะมีความสุขได้ก็น่าจะเป็นคนที่มีธรรมะอยู่ในตัวตน เป็นธรรมะที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาใดๆนั่นเอง
ก่อนที่จะถึงปีใหม่ 2566 นี้มีบทกลอนเล็กๆ ที่อยากฝากถึงเพื่อนร่วมโลกทั้งหลายที่เป็นเพื่อนกันอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการลองอ่านและคิดตาม
สวัสดีปีใหม่ 2566 ขอให้ทุกคนสุขภาพดี มีความสุขกันทุกคนครับ.
"โลกเรานี้หมุนไปไม่สิ้นสุด
จะยื้อยุดหยุดเวลาหาได้ไม่
สรรพสิ่งวนเวียนผันเปลี่ยนไป
เก่าสู่ใหม่ไม่ยืนยงคงนิรันดร์
ชีวิตเราที่ดำรงและคงอยู่
บ้างตื่นรู้บ้างคิดลบสลบไสล
มีรวยล้นบ้างยากจนข้นแค้นใจ
ทุกผู้คนล้วนมีไว้ไฟสามกอง
กองที่หนึ่งยามกำเนิดเกิดชีวิต
กองสองพิศเลี้ยงดูตนจนเติบใหญ่
กองสามขอนสุมฟอนเนื้อเมื่อจากไป
สามกองไฟในชีวิตจงคิดดู
ก่อนวันหนึ่งจะมาถึงซึ่งการจาก
เราควรฝากความดีไว้ให้คงอยู่
แบ่งน้ำมิตร มอบน้ำใจ ได้ชื่นชู
ให้คนอยู่ ได้มีสุข คลายทุกข์ตรม."
สัก มะเฟือง รำพันใกล้วันปีใหม่
28 ธันวาคม 2565
และดีเจจำเป็น เลยขอถือโอกาสฝากเพลงที่มีความหมายไว้ฟังสักเพลงครับ
No comments:
Post a Comment
อ่านเรื่องราวต่างๆ แล้วอยากจะแบ่งปัน อยากถามต่อเชิญได้เลยครับ..