ในวันที่ฟ้าฉ่ำฝน ผืนไร่ท้องนาเต็มไปด้วยน้ำและความเขียวขจี สรรพชีวิตต่างตื่นขึ้นมาจากความหลับใหลอย่างเหนื่อยล้ากับความร้อนที่ผันผ่าน...
นี่เป็นช่วงเวลาของการเติบใหญ่อย่างแท้จริงของชีวิตของทั้งพืชและสัตว์โลก
ทุกสรรพชีวิตล้วนแล้วแต่ต้องเดินไปตามวัฎจักรแห่งการดำรงอยู่ตามกาล
ภาพทุ่งนาสีเขียวนอกวัดเล็กๆ แห่งหนึ่งของนครย่างกุ้งทำให้ผมรู้สึกสดชื่น เบื้องหลังเป็นภาพขององค์พระประธานหินอ่อนที่ซ่อนองค์อยู่ในครอบแก้วเพื่อป้องกันการขับถ่ายของหมู่วิหคทั้งนกกาและค้างคาว..
ผมกลับมาเยือนย่างกุ้งอีกครั้งในวันที่ "เมียนม่าร์" ประเทศเพื่อนบ้านของเรากำลังเปลี่ยนโฉมอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ทุกคนจะนึกถึง จากสงครามที่กระจัดกระจายทั่วประเทศที่กินเวลายาวนานกว่าห้าสิบปี หรือ คำ"ประชาธิปไตย" ที่ไม่เคยเบ่งบานในประวัติศาสตร์พม่าสมัยใหม่
ใครจะนึกว่าปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างจะจบสิ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาแค่สองปี ?
บทจะง่ายไอ้สิ่งที่ว่าเป็นไปไม่ได้ก็กลับง่ายเอาเสียดื้อ ๆ ซะงั้น
จากประเทศที่มีทรัพยากรมั่งคั่งแต่เก็บตัวราวกับฤาษีชีไพร พม่าได้เปิดประตูออกสู่โลกกว้างท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนจากทั่วโลกที่จับจ้องมองมายังประเทศนี้ด้วยสายตาวามวาวและราวกับจะเชื่อครึ่งหรือไม่เชื่อครึ่ง
การเปลี่ยนแปลงของพม่าที่คนต่างชาติอย่างผมรับรู้ได้อย่างเร็วที่สุดก็คือ "ราคา" และค่าครองชีพของประชาชนที่ดูเหมือนจะปรับตัวได้เร็วกว่าอย่างอื่นใดเสียอีก
โรงแรมระดับสี่ดาวที่เคยพักย่านรอบ ๆ ตลาดสก็อต จากราคา 50-60 เหรียญได้ปรับราคาขึ้นไป 3-4 เท่าจนน่าตกใจ !
ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือห้องพักแม้จะมีราคาแพงมากแต่กลับไม่พอต่อความต้องการพักของทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ
และความตั้งใจของผมในการเดินทางทริปนี้ก็คืออยากจะกลับไปเยี่ยมชมสิ่งต่าง ๆ และพบกับผู้คนที่น่าประทับใจก่อนที่สรรพสิ่งจะเปลี่ยนไปตามกาล
และสถานที่ที่ผมจะเดินทางไปในครั้งนี้นอกเหนือจากการสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมหาเจดีย์ชเวดากอง, เทพทันใจ ในย่างกุ้งแล้ว ผมยังต้องการที่จะเดินทางไปกราบองค์พระธาตุมุเตาแห่งเมืองหงสา และขึ้นเหนือสู่พุกามกับมัณฑะเลย์อดีตราชธานีเก่าอีกด้วย
ใช้เวลาที่มีอย่างจำกัด 6 คืน ก็ได้รูปมาฝากกันครับ
องค์พระธาตุมุเตาแห่งเมืองหงสา
เจดีย์หัก จุดอธิษฐานที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
เด็กน้อยยื่นขายมาลัยริมทาง
มุมมองจากบัลลังค์ของกษัตริย์บุเรงนอง
พระพุทธรูปสี่ทิศระหว่างทางไปเมืองพุกาม
ตลาดใหญ่กลางเมืองมีข้าวของขายนานาชนิด
เครื่องไม้แกะสลักก็มีมาก ล้วนแล้วแต่สวยงามน่าสนใจ
มหาเจดีย์
คุณยายร้อยดอกปาริชาตขายในวัดเลี้ยงชีพ
สามเณรน้อยนั่งพักผ่อนพร้อมด้วยบาตรในมือ
เยี่ยมชมมหาเจดีย์
องค์พระยืนที่มีประดิษยฐานอยู่ทั้งสี่ทิศ
รีสอร์ทที่พัก สวยงามระดับห้าดาว
มุมหนึ่งของรีสอร์ท
ไกลออกไปคือกลุ่มโบราณสถานที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปในพุกาม
มุมมองจากระเบียงห้องพักก็ยังมีทิวทัศน์ของเจดีย์และโบราณสถาน
ปีนขึ้้นสู่จุดชมวิวที่เจดีย์
ภาพของทุ่งเจดีย์แห่งเมืองพุกาม
อีกมุมหนึ่ง
เหนือลำน้ำอิระวดีก่อนอาทิตย์อัสดง
ตะวันกำลังจะลาลับฟ้ามองจากจุดชมวิว
งดงามจับใจกับแสงสีสุดท้ายของวัน
ดวงตะวันยังคงที่เดิม เหล่าสถูปก็ยังคงเดิม มีแต่คนที่เปลี่ยนแปลง
เจ้าหนูกับทานาคาบนหน้า เก๋ไก๋ไปอีกแบบ
สะพานอูเบียนท่ามกลางแสงแดดจ้า
ทางสัญจร
คุณยายขอทานมองอดีตของตนผ่านคู่รักหนุ่มสาว
เรือสัญจรจอดพักริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี
ปืนใหญ่กระบอกโต แต่มิอาจปกป้องอาณาจักรจากผู้รุกราน
หอคอยมัณฑะเลย์ จุดที่พระนางศุภยลัตทอดพระเนตรเห็นกองเรือรบอังกฤษด้วยความสิ้นหวัง
ร้านอาหารอร่อยริมน้ำ
จุดอธิษฐานที่มหาเจดีย์ชเวดากอง เป็นจุดอธิษฐานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด
สาวนักดนตรีพม่าที่ร้านอาหารการเวก
กลับจากพม่าในครั้งนี้ผมไม่ทราบเลยว่า การเดินทางสู่ประเทศเพื่อนบ้านของเราในครั้งต่อไปของผมนั้นจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ และจะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรที่รออยู่บ้าง ดังนั้นในทริปนี้ผมจึงพยายามที่จะเก็บเกี่ยวบรรยากาศไว้เป็นความทรงจำให้มากที่สุด
อย่างว่าละนะ ชีวิตของคนไหนเลยจะเอาแน่นอน ?
ดังนั้นจึงมีคำกล่าวที่ว่า "สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือความไม่แน่นอน" ซึ่งก็คือเรื่องจริง และผู้คิดคำพูดนี้มาได้ก็คงเป็นนักปรัชญาท่านหนึ่งที่ผ่านชีวิตมามาก...
ในสายลมบางเบาริมฝั่งแม่น้ำอิระวดียามเย็น ผมแว่วเสียงเพลงจากภูเขาไกลตาที่อยู่เบื้องหน้า...
ฉันหลับตาลงชั่วขณะและเวลาก็ได้ผ่านพ้น
ความฝันทั้งมวลล้วนผันผ่านก่อนที่จะลืมตาและรับรู้เรื่องราวอันน่าประหลาด
ฝุ่นในสายลม...เราทั้งมวลเป็นเพียงฝุ่นในสายลม....
ความฝันทั้งมวลล้วนผันผ่านก่อนที่จะลืมตาและรับรู้เรื่องราวอันน่าประหลาด
ฝุ่นในสายลม...เราทั้งมวลเป็นเพียงฝุ่นในสายลม....
เหมือนเพลงเก่า...ดุจเพียงแค่หยดน้ำไหลลงสู่ทะเลที่ไร้ขอบเขต
ทุกสิ่งที่เราทำจะภิณพ์พังลงกับพื้น ราวกับเศษขยะที่ไร้ค่าแม้แต่จะเหลือบแล
ฝุ่นในสายลม...เราทั้งมวลเป็นเพียงฝุ่นในสายลม....
อย่ามัวแต่ยึดมั่นถือมั่น.. ไม่มีอะไรที่จะคงอยู่ไปได้ตลอดกาลใต้โลกและท้องฟ้า
ทุกสิ่งที่เราทำจะภิณพ์พังลงกับพื้น ราวกับเศษขยะที่ไร้ค่าแม้แต่จะเหลือบแล
ฝุ่นในสายลม...เราทั้งมวลเป็นเพียงฝุ่นในสายลม....
อย่ามัวแต่ยึดมั่นถือมั่น.. ไม่มีอะไรที่จะคงอยู่ไปได้ตลอดกาลใต้โลกและท้องฟ้า
มันจะจากไป ไม่ว่าเงินหรือของมีค่าใดก็ไม่อาจซื้อเวลาคืนกลับได้แม้นาที
ฝุ่นในสายลม...เราทั้งมวลเป็นเพียงฝุ่นในสายลม....
ฝุ่นในสายลม...ทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นฝุ่นในสายลม...
ฝุ่นในสายลม...ทุกสรรพสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นฝุ่นในสายลม...
No comments:
Post a Comment
อ่านเรื่องราวต่างๆ แล้วอยากจะแบ่งปัน อยากถามต่อเชิญได้เลยครับ..